Tuesday, December 18, 2007


ซาคีโกะ(Sakiko)

โชคดีจริงๆที่เธอพอจะพูดภาษาอังกฤษได้ หากเธอพูดแมนดารินหรือญี่ปุ่นผมคงแย่ โชคดีอีกครั้งใหญ่คือ เธอฟังภาษาอังกฤษของผมได้เข้าใจ เข้าใจรับทราบในบางขณะที่สีหน้าและคิ้วของเธอขมวด

"ฉันชอบดื่มเบียร์ค่ะ เบียร์อาไรก็ได้ และฉันขอถ่ายรูปคุณได้มั้ยค่ะ" เธอหันมาคุยภาษาไทยเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนประเทศไทยที่ไม่ยอมเสียเอกราชแต่มีบ้างที่ยอมให้ปรับปรุงรัฐธรรมนูญบ่อยครั้ง...

"ไม่ได้ คนไทยไม่ชอบถ่ายรูป" ผมพูดพลางเปิดสิงห์เบียร์ให้เธอแต่ไม่รินใส่แก้วให้ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นเอาใจสามีเก่งและคงทำเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ได้

"ขอบคุณค่ะ คุณดื่มอาไรค่ะ"

"อ่อ ผมดื่มเบียร์อาซาฮีและสูบมายด์เซเว่นฬ์" ผมทำหน้าดัดจริตแบบ ผู้กำกับหนังไทย!เธอยิ้มหวานแต่ในใจคงคิดว่า(?บ้านี่ดูพิลึกบวกเพ้อเจ้อ)

"ร้อนมั้ย" ผมถามเธอโดยไม่มีหางเสียง

"ไม่คะ ขอบคุณนะค่ะ" เธอตอบด้วยคำสุภาพและยิ้มอย่างผู้มีอารยธรรม

"เอ้า กัมปาย กัมปาย ไปปาย" ผมเสียงดังมือยกแก้ว เธอทำหน้า งง?

สิงห์เบียร์หมดไปห้า มายเซเว่นฬ์หนึ่ง อาซาฮีหนึ่ง วิสกี้แสงอีกแบน โซดาไม่ได้นับ เธอหน้าแดงส่วนผมหน้ามึนเราเริ่มคุยกันได้อย่างถูกคอ เสมือนเคยส่งจดหมายอิเล็คโทรนิคกันมานับปี เธอคงมีความสุขมากที่ได้เจอผม ผมสังเกตุจากเสียงหัวเราะและการคิดเข้าข้างตัวเอง..

.ผมสงสัยเรื่องเกอิชา?เธอสงสัยเรื่องภูเขาทอง?ผมตอบคำถามเรื่องต้มยำกุ้ง เธอตอบคำถามเรื่องนัตโตะและเห็ดมัดสึตาเกะ

เราคุยกันตั้งแต่เรื่อง แอ๊บแบ๊วแอ๊บนอมอลอิไตอิไตกามิกาเซทาเคชิ คิตาโน่โตเกียวดิสนีย์แลนด์

หนังสือ everybodyeverything

ภาพยนตร์ Lost in Translation

โดราเอม่อน

ไดมารุฮอกกุ&บาโช

5ธันวาคมและ23ธันวาคม

Jimu Tonpuson noie

Chatuchak Ku SandeeUeno Park

บาร์ปิดลง แสงไฟสลัวเริ่มสว่างอีกครั้งสาวน้อยวัยใสเดินทยอยจากไป

ผู้ชายสกินแฮดชักชวนเพื่อนไปเที่ยวต่อ ใครบางคนเสื้อสีเขียวยังนั่งหลับบนโซฟาตัวเดิม นักต่อสู้ทางความคิดยังคงถกเถียงเรื่องกาช่องรับหรือไม่รับในวันอาทิตย์

ผมกับเธอเดินออกมาจากร้านพร้อมกัน เราดูแลกันตลอดทั้งคืนใต้ผ้าห่มผืนให้สีขาวของอุณหภูมิยี่สิบองศา ก่อนดวงอาทิตย์สีแดงกลม จะสว่างให้ไออุ่น

"ซาคี ขอผมถ่ายรูปบ้างได้ไหม?"

"ไม่ได้ค่ะ คนไทยไม่ชอบถ่ายรูป" เธอยิ้มให้กับแสงแฟลชสีแดงอีกครั้ง

มีคนถามฉันว่าเธอนั้นคือใคร?รู้จักกันได้ไงเธอสวยสดใสเจอเธอที่ไหน ทำไมไม่ตอบหรือคุณแอบชอบเธออยู่มากมายฉันแอบอมยิ้มแลดูไอพอด( ipod )เอามาโอบกอดเพราะมีภาพเธอดูเธอยิ้มสวยแววตาน่ารักฉันคงอกหักเพราะแอบรักเธอหุ่นเธออึ๋มอึ๋ม ขาวขาว อวบอวบฉันอยากจะรวบเส้นผมเธอจูบปลายนิ้วสัมผัสหน้าผากโหนกแก้มเอาจมูกฉันแจม ตรงแก้มสีชมพูแววตาสวยงามยิ้มหวานรัญจวนหน้าอกอวบอ้วน ดุจภูเขาไฟ!หากเธอเป็นไฟ ฉันเป็นไก่ย่างขออยู่ข้างล่างปล่องภูเขาไฟหากเธอเป็น"ลม"ฉันขอเป็นยาดมให้เธอได้ชื่นชม หอมให้สบายหากเธอเป็นฟ้า ฉันขอเป็นฝนเพราะเธอคงซน เล่นฝนจนไข้หากเธอเป็นไข้ ฉันจะเป็นหมอโอ้โอ๋ละหนอบนเตียงคนไข้แต่หากว่าเธอจะยอมรักใครเป็นฉันได้ไหม...คนนั้นของเธอ
ฝากบอก ทะเล ว่าคิดถึง...ภูเขา
ฝาก บอกเงา ว่าคิดถึง... ต้นไม้
ฝากบอก กระต่าย ว่าคิดถึง... ดวงจันทร์
ฝากบอก กังหัน ว่าคิดถึง... ลม
ฝากบอก ขนม ว่าคิดถึง... รสหวาน
ฝากบอก น้ำตาล ว่าคิดถึง... มด
ฝากบอก ความทรหด ว่าคิดถึง...ความอ่อนแอ
ฝากบอก พ่ายแพ้ ว่าคิดถึง ...ความเหงา
ฝากบอก ผัดกระเพรา ว่าคิดถึง...ไข่ดาว
ฝาก บอก สีขาว ว่าคิดถึง ...สีหม่นๆ
ฝากบอก ฝน ว่าคิดถึง ...คุ่น?
ฝากบอก อบอุ่น ว่าคิดถึง... ฤดูหนาว
ฝากบอก ก้าวร้าว ว่าคิดถึง... สุขุมาล
ฝากบอก ทหาร ว่าคิดถึง... ประชาธิปไตย!
ฝากบอก ดาวสุกใส ว่าคิดถึง... เธอ
ฝากบอก ว่าเพ้อ ว่าคิดถึงเธอทุกเวลา....
ขยับ ขย่ม ขยี้
นวลลออ นวลนาง นวลน้อง
ขอบโต๊ะ ขอบตา ขอบเตียง
ครวญคราง ครวญคำ ควรคำนึง
ละล้าละลัง ละล่ำละลัก ละเลง
ละเมาะ ละเม็ด ละมุน
หกเก้า หกหัน หกคะเมน!
ระรัว ระรวย ระริก...
อัสสาสะ อัศจรรย์ อสุจิ

Saturday, July 07, 2007

สวัสดี สวัสดี สัมผัสตัวอักษรที่พิมพ์แล้วใช่มั้ย!


ตื่นเต้นมาก ที่ได้กลับเข้ามาที่นี่อีกครั้ง
กลิ่น คาวๆ ของตัวอักษรและห้องหอมๆยังคงเดิม
อักษรทุกตัวที่ผ่านตาและความรู้สึกของท่านสำหรับที่นี่ อาจดูหยาบคายแต่โปรดจงเข้าใจอีกครั้งว่า ทุกเรื่องคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของมนุษย์
ไม่ได้แสร้งทำ หรือแสร้งว่า และ ตอนนี้บางเรื่องของตัวอักษรก็กำลังดำเนินอย่างช้าๆขณะท่านกำลังหายใจ
ครั้งแรกตั้งใจว่าจะเตรียมเรื่องที่เขียนก่อนเพราะนี่ก็เลยเวลาพักผ่อนทั้งๆที่ไม่เหนื่อยล้า
แต่ก็มีอาการ อดใจไม่ไหว ดีใจที่ได้กลับมา หากมะรืนนี้ฉันไม่ตื่นขึ้นมาอย่างสดใสขอให้รู้ไว้ว่า
...วันนี้จะคิดถึงเธอทุกคน
ขอบคุณ พี่ปรายที่ให้ อากาศสดใส อีกคราว
สวัสดี สวัสดี ได้ยินเสียงมั้ย เสียงของอากาศ

Friday, May 18, 2007





ทำไมเข้าไม่ได้ล่ะ ทุกอย่างใช้ของเดิม

Wednesday, December 20, 2006

แม่ค่ะวันนี้ฉันจะเป็นกระหรี่

เรื่องอะไรกันเหรอ ที่ตัวฉันจะเสียใจไม่ได้ สูบบุหรี่และมีอาการเมาไม่ได้เหมือนใครๆ ที่เขาดื่มวิสกี้ชั้นดีสีสดใสผสมน้ำโซดาโคล่า....เวลาที่ใครได้ทอดทิ้งฉันไปและทำให้อ้างว้างและเหงาใจฉันนั่งมองท้องฟ้าริมระเบียงเพื่อหลบไอแดด และคอยคิดเสมอว่าสักวันหนึ่งจะเก็บมันมาใส่ไว้ในแก้วเหล้าและดื่มมันเข้าไปเพื่อระบายความใคร่ที่อยากจะมีใครสักคน ไว้กอดแทนหมอนข้างลายการ์ตูนคิทตี้แฆท...ที่สุดแสนจะน่าเบื่อ

เพื่อนผู้ชายชาวตะวันตกของฉัน ไม่นับรวมชายคนแรกฉันได้ทำให้เขาเสียใจจนดื่มทุกอย่างเกือบหมดทั้งบาร์ไม่เหลือแม้กระทั้งผงเกลือและผลมะกอกสีเทาฉันยังจำได้ว่าทำให้เขาเสียน้ำตาจนเราไม่สามารถพูดคุยกันอย่างเข้าใจได้อีกต่อไป

เขาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องนอนของเรา ไม่เว้นแม้กระทั้งดิกฌันนารีเล่มบางๆ ห้องที่เราเคยร่วมรัก กอดจูบและกลืนกินของเหลวกันและกัน อย่างพึงพอใจในรสชาติของธรรมชาติ และนั้นก็เพียงความทรงจำที่ผ่านมาเพียงแค่อาทิตย์เดียวของเราสองคนในฤดูร้อนของปีที่ร้อนที่สุด

ฉันจดจำไม่ได้เสียแล้วว่า ผู้ชายคนแรกที่ทำให้ฉันมีความสุขเป็นเช่นไร แววตาสีหน้าและลักษณะท่าทางเป็นแบบไหนแต่ฉันมั่นใจว่า เขาคือคนที่จะรักฉันรสชาติของความรักครั้งแรก ฉันก็ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้

...เปล่าหรอกค่ะ! ฉันไม่ได้หลงลืมเพียงแต่ไม่อยากเอาผู้ชายคืนแรกแห่งรักไปเปรียบกับคนสุดท้ายในค่ำคืนของอดีต ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวผสมสารส้มตรงระหว่างเนินที่แสนบอบช้ำหากไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับผู้ชายที่จะรักใครสักคนได้...แม่ค่ะวันนี้ฉันจะเป็นกระหรี่

17 ธันวาคม 2549 เวลา 8 นาฬิกา 31 นาที

















วันเบาเบา

วันเบาเบาของฉันมีแค่สาม
เป็นตามธรรมชาติของตัวฉัน
มองคล้ายสิ่งน่า มหัศจรรย์
ผู้หญิงนั้นต้องมีกันทุกคน

แรกเริ่มมีอาการหงุดหงิดใจ
ปวดท้องน้อยไปถึงภายในกาย
มีอาการคล้ายคล้ายเจ็บหน้าอก
ต้องเริ่มพกผ้าอนามัยแผ่นหนาๆ

บางครั้งอาจมีไข้มาแทรกซ้อน
ตัวเริ่มร้อนโหยหา ยาลดไข้
พาฬาเซตทามอลนั้นเป็นไง
หมอแนะไว้หากปวดอย่าทานยา

ช่วงนี้จะมองโลกไม่สดใส
ภายในใจต้องการอะไรหนา?
นอนอ่าน ฝนตกตลอดเวลา
หน้ายี่สิบห้า เปียกแตกกระเซ็น

มีอาการเปียกชื้น บางเวลา
ต้องใส่แบบไม่ไหลย้อนกลับมา
หลากหลายให้เห็นในโฆษณา
แผ่นหนาหนากระชับกำลังดี

อ่านหนังสือเกือบหมดทั้งเล่ม
สมกับเป็นเรื่องแต่งสุดหรรษา
ในหนังสืออาจจะแฝงปรัชญา
จะค้นหาต่อไปใน วันเบาเบา

16 ธันวาคม 2549 เวลา 5 นาฬิกา 40 นาที

Wednesday, November 22, 2006














คำถาม?คำตอบ

คำถาม:
- ต้นไม้สีเขียวในกระถาง
- ทีวีโชว์ช่องเจ็ด
- ถุงยางกลิ่นส้ม
- เมืองทองธานี
- พาร์ฒ์รีศฮิลฑั้น
- มูราคามิ
- อสุจิ
- ควันบุหรี่สีขาว
- เบียร์ช้างสีชมพู
- บริษัทไฮซีซั่นจำกัด
- สุขุมวิท26
- เพชรซาอุ
- จาตุรงค์ ฉายแสง
- หัวนมสีดำ
- กระหรี่พั๊ฟ
-ไอพอด

“ทุกอย่างที่กล่าวมีเจ้าของอยากทราบว่า แมวหมา มีเจ้าของหรือไม่?”
อยากทราบจริงๆนะคะ/นกเงือกเหงือกแดง จ.นราธิวาส

ตอบ:
แมวหมามีเจ้าของแล้ว! เจ้าของแมวหมาชื่อ คุณนีน่า
ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นอนุบาลสาม โรงเรียนบ้านสานฝันของครูวุ้น เจ้าของแมวหมาชอบแบ่งคุกกี้
ให้รับประทานตอนขับรถไปรับและส่งที่บ้านราชเทวี คุณนีน่าเป็นลูกของเจ้านายแมวหมา

แมวหมาเข้านอนตอนเจ็ดโมงเช้าและออกไปพบเจ้าของตอนบ่ายสาม สี่โมงเย็น
จะอยู่แถวสยามสแควร์เวลาสำหรับอาหาร และโปรดนั่งร้านคัพบีชั้นสองโรงหนังลิโด้
หากเริ่มเบื่อจะแอบไปขโมยอ่านหนังสือที่เอเชียบุ๊ค หรือซื้อตั๋วไปหลับในโรงหนัง

บางคราวอาจเหลือบไปมองนมหกขาวขาวพนักงานร้านโซดา ของคุณดวงตา นันทขว้าง
หากไม่ต้องรับผิดชอบสิ่งใดในวันใหม่ แมวหมาจะแอบไปเมาตรงถนนหน้าพระลานและมุดหัว
ชมแสงจันทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโชคดีจะได้เจอน้องหมวยธรรมศาสตร์กระโปรงสั้นขาขาวๆ

แต่ตอนนี้มีไอเดียใหม่อยากไปนั่ง ร้าน สรรพรส อยากไป อยากไป อยากไป !!!
ว่าแต่เบียร์ช้างสีชมพูเป็นยังไง ? ท่าทางเธอจะเมาหนักไปนะ หรือหรือหรือ มีความรักกันแน่จ๊ะ…














ที่มา www.houserama.com
แพ้เพราะเพื่อน

เพื่อนรักของฉันแอบไปดูหนังกับศัตรู
เพราะเหตุผลที่เธอไม่รู้หรือเธอแกล้งอำ
สิ่งที่เธอทำลงไปฉันเสียใจและผิดหวัง
บางทีเธออาจพลาดพลั้งไม่ระวังว่าใครเสียใจ

น้อยคนนักที่รู้ว่าฉันไม่ค่อยมีปรปักษ์และศัตรู
บางครั้งฉันก็ไม่ใช่ผู้รู้จะดูบุคลิกใครออกทุกคน
ฉันมันพวกกวนตีนชอบแหย่แย้งคนอารมณ์ฝัน
ศัตรูฉันเป็นควายมหัศจรรย์ตามหลังฝรั่งผมทอง

ไอ้ศัตรูมันพวกหัวนอกมองคนไทยเป็นกระจอก
ทำตัวหัวนอกยโสกินแต่เนยลืมผัดไทยใส่ถั่วงอก
ค่านิยมเลิศหรูทำเป็นพวกฉลาดชอบหนังอาทส์ (arts)
ไอ้สัตว์ทำตัวประหลาดดูหนังอาทต์ปรามาศหนังไทย

ขอด่าอีกสักสามบรรทัดและจะวกกลับไปหาเพื่อนรัก
ศัตรูหน้าควายดันดัดจริตฟังเย่ๆๆ (YEAH YEAH YEAH)
ไอ้สันดานคงนึกว่าเท่มองเปลือกนอกเพียงของเก๊ไร้รสนิยม
ดมก้นฝรั่งพ่อมึงเกิดที่ไหนกันไอ้สัตว์ทำหัวล้ำอัศจรรย์ส้นตีน

โอ๊ย! ด่าอย่างไรคงมันไม่เจ็บ เจ็บที่ใจฉันเองอีกต่างหาก
ความรู้สึกบอกไปแสนยากเหมือนเอาผ้าขาวไปตากกลางฝนตก
ตากอย่างไรผ้าคงไม่แห้งแดดไม่แรงซ้ำอาจโดนโคลนกระเด็นใส่
ผ้าขาวดั่งหัวใจบอบบางเกินไปพายุพัดกระหน่ำแสนเปียกปอน

ครั้งแรกเมื่อฉันรู้ว่าพวกเขานัดไปดูหนัง...
ฉันอยากตัดความสัมพันธ์ทั้งก่อนหลังที่ผ่านมา
ลากันทีความรักของเพื่อนรัก เพราะฉันมันก็แค่คนบ้า!
จากนี้ไม่โทรหา แสนอนาถาแพ้เพราะเพื่อนที่ไว้ใจ
เพื่อนใหม่?

เพื่อนใหม่ ผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งแอบมาทานขนมที่บ้านฉันเมื่อคืนนี้...
เราดื่มนมสดร้อนและนั่งมองขนมเค้กผลไม้สีขาว
ในจานสีขาว
ฉันแอบมองขนมและคิดในใจว่าเมื่อไร
เธอจะจัดการกับขนมเสียที
ฉันเริ่มหิวแล้ว...
เธอน่าจะทานและฉันจะได้ลิ้มรสขนมบ้าง
เธอใช่มือหยิบขนมโดยไม่สนใจช้อน
หรือซ้อมอันเล็กที่วางอยู่
ปากสีชมพูและแก้มของเธอ เลอะครีมสีขาว
ฉันใช้ลิ้นไปสัมผัสครีมที่แก้มและปาก
สีชมพูอันบอบบาง
เธอยิ้ม ฉันสังเกตเห็นมีลักยิ้มเล็กเล็กตรงแก้ม
"เธอน่ารักจัง"... ฉันกระซิบกับเธอเบาเบา
"พรุ่งนี้เราออกไปเล่นกันที่สนามหญ้านะ"เธอชวนฉัน

นานมากที่ฉันไม่เคยออกไปจากบ้านหลังสีเหลืองเพียงลำพัง
ทุกทุกครั้งจะมีพี่ชายไปเล่นกับฉันสองคนที่สนาม เราเล่นชิงช้ากันหรือไม่ก็เล่นน้ำฝน!
แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่บ้าน เขาไปเล่นต่อสู้กับคนอีกกลุ่มเพื่อพวกเราทุกคน เขาเป็นทหารแม่บอกฉัน
ฉันเหงารอพี่ไม่ไหว ฉันเหงา!!

พรุ่งนี้ฉันจะออกไปเล่นกับเธอที่สนามหญ้า...
บ้านลุงวินทร์ แม้ว่าหมาที่นั้นจะตัวใหญ่ฉันก็ไม่กลัว
ฉันจะปกป้องเธอไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใครมาก่อนหรือเคยไปขโมยขนมของใครเพราะตอนนี้เธอเป็นเพื่อนฉัน...ฉันพร้อมแล้วที่จะรักใครสักคน???

หากพี่ชายฉันกลับมาคงเข้าใจว่าทำไมฉันไม่รอเขาฉันหวังไว้ เขาจะต้องกลับมาหาฉัน...เพราะเราเคยมีกันแค่สองคนและเขาคงไม่รังเกียจเพื่อนใหม่ของฉัน

26 กันยายน 2549 เวลา 17 นาฬิกา 24 นาที

Thursday, November 16, 2006

ทฤษฏีสัมพันธเพศ

เพื่อนฉันเล่าความจริงเธอมีสิ่งที่เป็นประสบการณ์
ฉันรับฟังการที่คนรักกันไม่จำเป็นต้องมีเรื่องอย่างนั้น
สมัยฉันเป็นเด็กไม่เคยอยากรู้คำว่ารักหรือคำว่าเสร็จ
ทฤษฏีสัมพันธเพศ
ธรรมชาติจะบอกคำตอบเมื่อเราพร้อมตั้งคำถาม?

ตอนเรียนมอสองเพื่อนตั้งท้องจึงจำเป็นต้องลาออก
เพื่อนคนนี้ดีอยู่หรอกเฝ้าบอกอย่าให้ผู้ชายมาหลอก
แรกๆผู้ชายจะหลงพอพลังรักเหือดหายก็จะเบื่อหน่าย
ความรักจักพังทลาย ต้องกลับกลายเป็นเศร้าตรม

หน้าอกฉันเหมือนเด็กประถมความรู้มัธยม มอเจ็ด
เรียนที่ไหนทำไมมอเจ็ดหลักสูตรเสร็จแค่ มอหก
อ่อมอเจ็ดเปรียบดังเทอมสุดท้ายก่อนย้ายสู่มหาลัย
ใครใครที่นี้เขาก็ทำกันทิ้งอารมณ์ฝันสู่โลกความจริง

ห้องนอนมีตุ๊กตาสีขาวคุณแ ม่ไม่อยู่พาเพื่อนมาเช็ด
ปัดฝุ่นจัดกวาดเช็ดถูตรงไหนดู ดำดำจะทำให้เสร็จ
ตัวฉันไม่เป็นเผด็จการไม่เคยข่มขู่ให้ใครน้ำตาเล็ด
จัดห้องเสร็จนั่งคุยกันเล่าเรื่องความฝันสวรรค์ชั้นเจ็ด

ความรักเรื่องแตกต่างคนละสองทางกับอารมณ์ใคร่
ผู้ชายส่วนมากมักไปใส่ใจกับความใคร่ใช่ความรัก
ผู้หญิงอย่างฉันพร้อมจะให้สิ่งที่หวงกับชายที่ฉันรัก
สุดท้ายทุกอย่างประจักษ์ว่าอารมณ์รักฉันกำลังสอง

*แด่ คุณลุงหัวฟูผู้น่ารักและห้องนอนสีขาวคืนนั้น

13 พฤศจิกายน 2549 เวลา 18 นาฬิกา 55 นาที

Saturday, November 11, 2006















Robert Mapplethorpe, Tulip 1988

ทิวลิปสีชมพู

เสื้อนักศึกษาสีขาวรัดรูปถูกถอดทิ้งไว้
ไม่รู้ของใครมันคงวางไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
ตอนฉันตื่นเสื้อวางอยู่ตรงขอบเตียงนอน
สงสัยเธอคงงอนไม่ยอมใส่เสื้อตัวนี้กลับไป

เมื่อคืนอยู่กับผู้หญิงหน้าหมวย
เธอดูขาวสวย ขายาวนุ่งกระโปรงสั้นมืดมิด
เธอนอนไขว้ขากระโปรงสั่นถลกขึ้นมาขาขาวสนิท
ไม่ได้โรคจิตเพียงสายตาคิดไขปริศนาตรงต้นขาเธอ

ตอนเธอสลับขาขาวขาว จิตใจฉันแทบอยากจะบ้า
ช่วงขาขาวชั่งปิดสนิทสายตาไม่มีสิทธิแอบปีนเข้าไป
เสมือนมีรั้วรอบขอบชิดปิดกันสวนดอกทิวลิป
ฉันไม่มีสิทธิ์แอบจ้องมองดูเจ้าดอกทิวลิปสีชมพู

เธอชั่งหน้าหวานใช้สายตาประสาน อมยิ้มนิดนิด
ฟันใส่เหล็กสีแดงเหล็กนั้นคงแพงฉันลองใช่ลิ้นสะกิด
ริมฝีปากเธอไม่มีสิทธิ์ดิ้นกระดุกกระดิกกะจุ๊กกะจิ๊ก
เพราะปากเราแนบชิดติดกัน ติดกัน ติดกันเป็นพัลวัน

ทิวลิปสีชมพูฉันมักสนใจใคร่อยากรู้โดยใช้ลิ้นชิม
อยากลองลิ้มรสว่าดอกไม้สด รสชาติเป็นเช่นใด
หากดอกทิวลิปได้ยินโปรดให้อภัยในความผิด
ฉันมักใช่ลิ้นชิมกลืนกินรสกลิ่นด้วยความสมัครใจ

เสื้อนักศึกษาสีขาว เอ๊ะ!ทำไมแขนยาว
ไม่ใช่ของน้องหมวยหน้าขาวที่มาค้างคืน
เสื้อสีขาวของคนอื่นกับถุงยางที่วางอยู่บนพื้น
นึกถึงเรื่องเมื่อคืน เมาหลับไม่ตื่นลืมล็อคประตู!

11 พฤศจิกายน 2549 เวลา 6 นาฬิกา 33 นาที
จดหมายผี

ล่อลวงหยอกล้อจิตใจผู้อื่น
ทุกวันทั้งคืนแอบยืนหลอกด่า
บางครั้งสิ่งที่เธอเขียนเสมือนว่า
มาแกล้งหลอกด่าและยังมาตีหน้าเมินเฉย

แค่ขี้ข้ามาอาศัยสำนักเขาอยู่ในกระทู้
ซ้ำยังทำตัวรอบรู้แกล้งถือศีลห้า
บ้าพลังจิตหลงผิดงมงายอวิชา
อีกทั้งบ้าเรื่องตัณหากิเลสหัวใจ

วันดีคืนดีก็มาชี้หน้าด่า
พอจิตใจเริ่มหรรษาก็มาบอกรักเขา
เขียนจดหมายไม่สร้างสรรค์ช่างหัวเบา
ไม่มีใครเขาสนใจทักเพราะแสนเบื่อเอือมระอา

สันดานกลับเปลี่ยนยากจิตใจคน
เธอมันก็เลยวัยอลวนมานานนัก
ไม่ค่อยอยากจะพูดความรักกับคนตัณหากลับ
บางครั้งคำว่า รัก ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับคนอย่างเธอ

ได้โปรดข่มจิตอย่าดัดจริตมารยา
จงรักษามารยาทการทำลายอารมณ์ผู้อื่น
บางครั้งฉันไม่อาจจำต้องทนฝืน
ละเมอแล้วตื่นอ่านจดหมาย ผี ฝีมือเธอ

9 พฤศจิกายน 2549 เวลา 18 นาฬิกา 40 นาที
เจ็บ มีเลือดออก !

เสียบปลั๊กไฟ สีขาวของเครื่องเล่นแผ่นเสียง
คราวนี้ตั้งใจเปิดเครื่องกว่าที่ผ่านมาทุกครั้ง
หยิบแผ่นเสียงสีดำ มีรูตรงกลาง
ใช้จมูกดมแผ่นเสียงก่อนฟังทุกที..ฮืม กลิ่นยังเหมือนเดิม
สามอย่างที่ชอบใช้จมูกดมกลิ่นเสมอในชีวิต คือ หนังสือแผ่นเสียง และผู้หญิง...

หยิบแผ่นเสียงของ JOHN LENNON
ออกจากซองกระดาษแผ่นมีรอยบิด ไม่เป็นไรเรื่องง่ายนิดเดียว
ใช้สองมือจับตรงขอบ และบิดเบาเบา!!!
เสียงหักของแผ่น บาดตรงนิ้วพอดี เจ็บ...มีเลือดออก ไม่ได้ทำแผลหรือใส่ยา???

นั่งมองแผลตรงนิ้วมือ นึกถึงช่วงหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น
ตอนนอนและปลดตะขอชุดชั้นใน สีขาวของเธอคนนั้น
สีหน้าเธอแดงระเรื่อ แววตาเปี่ยมความสุขแต่แฝงเร้นด้วยความสงสัยอย่างไม่หวาดระแวง
แสงไฟสลัวในห้องนั่งเล่นทำให้มองอะไรไม่ชัดเจนนัก...
เจ็บ...มีเลือดออก เธอบอก ไม่ได้ทำแผลและใส่ยา???

แผลตรงนิ้วมือของผมยังคงมีเลือดออก
แต่แผลของเธอคนนั้นอาจจางหายไปตามกาลเวลา...
นั่งมองแผ่นเสียงสีดำ มีรอยแตกแหลมคมตรงขอบ
เพลงที่สี่ HOW?ในแผ่น คงนำกลับมาฟังใหม่ไม่ได้อีกแล้ว
คิดถึงเธอคนนั้น ตอนนี้จะเป็นอย่างไร...กำลังฟังเพลงอยู่กับใคร? ที่ไหน
มีคนทำแผลให้เธออีกหรือ? ผมเริ่มไม่แน่ใจ......

24 กันยายน 2549 เวลา 4 นาฬิกา 37 นาที
ของฝาก

สะบัดเสื้อสีเทาสองครั้ง
ครั้งแรกเพื่อฆ่ามด...
ครั้งต่อมา เพื่อให้เสื้อเรียบขึ้น
มดไม่ตายแต่เสื้อเรียบกว่าเก่า
ผูกเชือกรองเท้าสีดำ...กำเงินออกจากห้อง
ลืมกุญแจ...ไม่เป็นไรวันนี้ไม่กลับมาก็ได้...

หญิงสาวสี่คน ยืนอยู่ด้านในของร้าน
จำหน้าไม่ได้...เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ยืนเลือกสมุด ทุกเล่มเหมือนกันหมด
ปกสีเขียวข้างๆมีหนังสือสามเล่มวางอย่างเป็นระเบียบ
เสื้อสีเรียบ ลวดลายสวย มีรสนิยมและศิลปะในการออกแบบ...
เรียงรายอยู่ด้านบน........แต่ไม่ชอบ!!!
จ่ายเงินค่าสมุดห้าเล่ม...เสื้อที่ไม่ชอบอีกสามตัว
โปสการ์ดสองแผ่น....
หญิงสาวน่ารัก สี่คน ยืนยิ้ม น่ารัก สุภาพอ่อนโยน
"ขอบคุณคะ" เธอยิ้มและแถมสมุดให้อีกหนึ่งเล่ม

ได้ของฝากที่ตั้งใจ....ให้กับเพื่อนที่ไม่เคยพบหน้า
เพื่อนที่ไม่เคยร่วมดื่ม เพื่อนที่ไม่เคยทนหิวด้วยกัน
เพื่อนที่ไม่เคยรู้ตัวเลขของอายุ
.........เพื่อนที่รอจะเจอ...เพื่อเอาของฝากให้......

นึกถึงมดที่ยังไม่ตาย...อย่างน้อยก็มีชีวิตรอด
กลับไปฝากเพื่อน ...
คิดถึงตอนผูกเชือกร้องเท้าสีดำ...
น่าจะผูกเชือกให้ช้ากว่านี้...ได้ไม่ลืมกุญแจห้อง???

2 กันยายน 2549 เวลา 23 นาฬิกา 52 นาที
















สวนของเธอ

ขอบเส้นดำละเอียดยิบ สลวยพริ้วไหวเพิศพราว
ร่มเย็นปกคลุมงดงามดุจดั่งพฤกษาดำขจี...
ไม่มีเสียงนกร้อง หรือเมฆบดบังแสงแดดให้ต้องละสายตา
ในคราบเงาดำควรมีเส้นสีขาวและเทาอีกหรือไม่...ไม่สำคัญ?
รสสัมผัสกิ่งใบอันละเมียด นิ่ม และเป็นเอกลักษณ์ น่าฟูมฟัก

เธอบอกและไม่ได้แกล้งหลอกให้ต้องตกใจ! เธอไม่เคยตัดแต่ง
ไม่มีการจัดสวน ปล่อยให้ธรรมชาติ เป็นผู้ลิขิตและเนรมิตทุกสิ่งนั้น
บางครั้งชนตะวันตกชอบตัดสวนโล่งเตียนรับแสงอาทิตย์แจ่มจรัส
บางครั้งของบางครั้งตะวันออกปล่อยโอกาศให้ธรรมชาติสร้างใบหนารกปกคลุมไร้ทิศทาง

ฉันมิได้ยินเสียงเธอเอ่ยปากถามแม้แต่น้อย...ในขณะที่สายตา
ฉันกำลัง พิศวงและสับสนกับสวนของเธอ
ฉันชอบสวนสีดำของเธอจัง!!!!!! สวนของเธอไม่ต้องมีธารน้ำไหลผ่านหรือก้อนหินสีใดใดวางไว้ก็ดูช่าง งดงามยิ่งนัก
นี่มิใช่ศิลปะ เธอไม่ควรพะวง...เป็นเรื่องของธรรมชาติมิใช่สิ่งที่มนุษย์พึงสดับและควรเรียนรู้ค้นหาเพื่อเผ่าพันธุ์แห่งตน

ได้โปรดเถอะ ฉันขอเฝ้าดูแลสวนของเธอจนกว่า เส้นสีดำจะเปลี่ยนแปลงเป็นสีขาว และขออยู่กับเธอคนเดิมตลอดไป
"ขอเธอจงอย่าตัดมัน"...
สวนเธอจะมีน้ำไหลนองนานหรือมีกลิ่นหอมในวสัตต์ฤดูหรือไม่? ...คงไม่มีใครรู้และยอมตอบคำถามเหล่านั้นได้...

13 ตุลาคม 2549 เวลา 14 นาฬิกา 12 นาที

 
Free Hit Counter
Free Hit Counter